ผมมั่นใจว่าคุณที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่จะต้องเคยผ่านการใช้งานเว็บไซต์กันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเว็บเพื่อข้อมูลข่าวสารทั่วไป การซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือ จนถึงเว็บแอปพลิเคชัน เช่น Facebook, Twitter และ โปรแกรมสมัยใหม่ที่ให้บริการบนเว็บไซต์

ซึ่งในมุมมองของผู้ใช้งานนั่นคือ “เว็บไซต์หนึ่งเว็บ” แต่ในฐานะของ “นักพัฒนา” เราจะเห็นส่วนใหญ่ ๆ ทั้งหมด 2 ส่วนในเว็บไซต์ ๆ นึง โดยเราจะแยกเป็นส่วนของ “Front-end หรือ หน้าบ้าน” กับ “Back-end หรือ ระบบหลังบ้านนั่นเอง”

แน่นอนว่าหน้าบ้านคือ หน้าตา การแสดงผล ข้อความ รูปภาพ วีดีโอ หรือ พูดง่าย ๆ คือ สิ่งต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานได้เห็นนั่นเอง และ ส่วนของหลังบ้านก็คือส่วนที่เป็นการนำข้อมูลที่ได้มาจากหน้าบ้าน มาจัดเก็บ คำนวณ ประมวลผล

เช่น การที่ผู้ใช้งานได้เห็นหน้าตาที่สวยงามของเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ของเรา แล้วสามารถคลิก กรอกข้อมูลในฟอร์มสมัครสมาชิกได้ เวลาผู้ใช้งานเข้าหน้าเว็บบนมือถือ แล้วแสดงผลหน้าตาที่แตกต่างกันออกไปกับบนคอมพิวเตอร์ ตรงส่วนนี้คือหน้าที่งานฝั่ง Front-end หรือ หน้าบ้าน โดยเมื่อกรอกข้อมูลในฟอร์มสมัครสมาชิกเรียบร้อย ฝั่ง Back-end ก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปจัดเก็บ ประมวลผลต่อนั่นเอง

โดยทั่วไปแล้วงานทั้งสองฝั่งจะมีการแยกกันชัดเจน แต่กรณีใครที่ต้องการควบทั้งสองส่วนก็สามารถทำได้ ถ้ามีความรู้เพียงพอ เราจะเรียกงานประเภทนี้ว่า “Full-Stack” ซึ่งมักจะต้องใช้ความรู้ และ ประสบการณ์ในระดับนึงก่อนที่จะมาทำงานตรงนี้ อาจจะเริ่มจากคนที่เคยทำ Front-end หรือ Back-end ก็ได้เช่นกัน

และ ในหลักสูตรนี้เราจะมาปั้นให้คุณเป็น “Front-end Developer” หรือ “นักพัฒนาเว็บไซต์ฝั่งหน้าบ้าน” ภายในเวลาแค่ 3 เดือนครึ่ง ไปพร้อมกัน !!

เพราะไม่ว่างานใด ๆ บนโลกของธุรกิจ มักจะต้องมี Front-End Developer คอยสร้างสรรค์ผลงานอยู่ลองนึกภาพดูว่า มีเว็บไซต์ หรือ ระบบใด ๆ ในโลกบ้างที่ไม่มีส่วนหน้าตา ที่ให้ผู้ใช้งานได้เห็น หรือ สัมผัส

คำตอบก็คือ “มีครับ” แต่ว่า ส่วนใหญ่ระบบเหล่านั้นจะมีหน้าที่เอาไว้ให้ คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องจักรคุยกันเอง เช่น ระบบสั่งงานเครื่องจักรจาก Sensor หรือ อุปกรณ์วัดค่าต่าง ๆ จนไปถึง API ที่ให้โปรแกรมไว้คุยกัน

แต่ลองดูว่าเว็บแอปพลิเคชันสมัยนี้ที่ตั้งแต่ขนาดเล็ก จนถึง ขนาดใหญ่ล้วนมีหน้าตา และ ฝั่ง Front-end ทั้งสิ้น ซึ่งบอกได้เลยว่า นี่คือ “งานหลัก” ที่ทุกธุรกิจ จะต้องมีในตอนนี้เลยก็ว่าได้

ในยุคที่ “ค่าโฆษณาแพง” จนไปถึง “การเพิ่มภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์” ทำให้เว็บไซต์คือ ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ทำให้ในปัจจุบัน Front-end Developer เป็นหนึ่งในอาชีพที่มาแรงที่สุดอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้